วงดนตรี 1 วง ประกอบด้วยเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท เช่น กีต้าร์ไฟฟ้า กลอง คีย์บอร์ดไฟฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดย 1 ในนั้นคือ คีย์บอร์ดไฟฟ้า เป็นเครื่องดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว มีลักษณะเป็นแป้นกดเป็นเสียงโน้ตต่าง ๆ คล้ายกับเปียโน โดยเป็นเครื่องดนตรีประเภทหนึ่งที่การทำงานของมันต้องอาศัยระบบไฟฟ้า โดยเมื่อแป้นโน้ตถูกกด มันจะสร้างเสียงขึ้นมาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายในตัวเครื่องนั่นเอง คีย์บอร์ดไฟฟ้า มักใช้ร่วมเล่นกับเครื่องดนตรีในหลากหลายสไตล์ เช่น ป็อป, ร็อค, แจ๊ส, อาร์แอนด์บี, คลาสสิค เป็นต้น

• ขนาดของคีย์บอร์ด เนื่องจากคีย์บอร์ดมีการจำลองมาจากเปียโนที่มี 88 ลิ่ม ดังนั้นคีย์บอร์ดบางรุ่นจึงมี 88 ลิ่ม แต่ก็มีการผลิตขนาดที่เล็กลงมา เป็น 61 ลิ่ม โดยเลือกเฉพาะที่จำเป็น และอีกประเภทเป็น 76 ลิ่ม คือคีย์บอร์ดที่เป็นการพบกันตรงกลางระหว่างคีย์บอร์ด 88 ลิ่ม และคีย์บอร์ด 61 ลิ่ม โดยคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจะเป็นคีย์บอร์ด 61 ลิ่มนั่นเอง

• น้ำหนักของคีย์บอร์ด น้ำหนักก็ขึ้นอยู่กับขนาดของคีย์บอร์ดนั่นเอง โดยคีย์บอร์ดประเภท 61 และ 76 ลิ่มจะมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน อยู่ระหว่าง 4-10 กก. ซึ่งพอจะขนย้าย หรือเคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่สำหรับ 88 ลิ่ม จะมีน้ำหนักที่กระโดดขึ้นไปมาก ตั้งแต่ 15-30 กก. ซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่องการขนย้ายไว้ด้วยนะคะ

• ช่วงที่ 1 สำหรับผู้ที่หัดเล่นใหม่ ๆ หรือให้เด็ก ๆ หัดเล่นยังไม่ต้องใช้ฟังก์ชันอะไรมากมาย ก็อาจเลือกคีย์บอร์ดไฟฟ้า ที่งบประมาณไม่เกิน 10,000 บาทค่ะ

• ช่วงที่ 2 หากเป็นนักดนตรีที่ต้องการนำคีย์บอร์ดไฟฟ้าขึ้นเวทีได้ ก็อาจจะดูราคาที่ขยับขึ้นมาประมาณ 10,000-15,000 บาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวนี้จะมีฟังก์ชันพื้นฐานค่อนข้างครบ

• ช่วงที่ 3 นักดนตรีอาชีพ คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่มีราคาประมาณ 20,000-40,000 บาท จะมีฟังก์ชันที่เยอะมากขึ้น สามารถประดิษฐ์เสียงได้เอง หรือจะเรียกอีกชื่อว่า Synthesizer

• ช่วงที่ 4 ศิลปินเพลง จะเป็นเครื่องดนตรีสำหรับโปรกันแล้ว เช่น คุณโต๋ ศักดิ์สิทธิ์, คุณหนึ่ง จักรวาล เป็นต้น ซึ่งสนนราคา ก็จะมีตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป จนไปถึงหลักหลายแสนกันเลยทีเดียว

4. แบรนด์ มีมากหลายหลายแบรนด์ด้วยกันในท้องตลาด อาทิเช่น Yamaha, Roland, Casio, Kawai เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปเฉพาะตัว

ดังนั้นหากคุณเพิ่งเริ่มเล่น คีย์บอร์ดไฟฟ้าที่เหมาะที่สุด คือ แบบ 61 ลิ่ม เพราะมีขายในท้องตลาดมากที่สุด มีรุ่นให้เลือกเยอะที่สุด และยังขนย้ายง่ายอีกด้วยค่ะ

ร้านขายเครื่องดนตรีมีอยู่มากมาย หรืออาจหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า แต่ปัจจุบันความนิยมในการซื้อของออนไลน์ เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเลือกได้ง่าย สามารถหาตัวเลือกได้อย่างสะดวกตามต้องการ และได้ราคาดีกว่าที่ไปซื้อตามร้านเสียอีก เมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็มาเลือกซื้อทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่ไว้ใจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับสินค้าตามที่สั่งซื้อจะดีกว่าค่ะ

Post a Comment