และอย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การพิมพ์เป็นเรื่องง่ายและมีอิสระมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคีย์บอร์ดนั้นเป็นแบบไร้สาย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ด้วยสัญญาณบลูทูธโดยไร้สายไฟระโยงระยางเกะกะ แต่อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดไร้สายในบ้านเรานั้นยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกน้อย วันนี้เราจึงมาทำความรู้จักกับเจ้าตัวคีย์บอร์ดไร้สายกันให้มากขึ้นกว่าเดิมกัน

อุปกรณ์ไร้สาย เป็นอะไรที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอย่างมาก และยังช่วยไม่ให้รู้สึกเกะกะกับสายไฟที่พันกันไปมา อีกทั้งยังช่วยให้โต๊ะคอมพิวเตอร์ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

คีย์บอร์ดไร้สาย หรือ keyboard wireless คือเทคโนโลยีอีกขั้นของการพัฒนาคีย์บอร์ดสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายไฟระเกะระกะ แต่เชื่อมต่อหากันกับอุปกรณ์ด้วยสัญญาณบลูทูธ ซึ่งบลูทูธนี้เองก็เป็นสัญญาณวิทยุชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถถ่ายโอนข้อมูลถึงกันได้โดยไม่ต้องใช้สายไฟ

เมื่อเราทราบแล้วว่าคีย์บอร์ดไร้สายคืออะไร ทีนี้ก็ถึงเวลามาดูกันแล้วว่าเราจะเลือกซื้อคีย์บอร์ดไร้สายได้อย่างไรบ้าง ซึ่งในวันนี้เรามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อ keyboard ไร้สายมาฝากกัน

อันดับแรก ก่อนที่จะควักเงินในกระเป๋าซื้อคีย์บอร์ดไร้สายสักเครื่องหนึ่ง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดและน้ำหนักของตัวแป้นพิมพ์ไร้สาย เพราะควรเลือกรุ่นที่มีขนาดพอเหมาะกับขนาดมาตรฐาน เพื่อการพิมพ์ข้อมูลที่ง่ายดายและความสะดวกสบายในการพกพา แต่สำหรับใครก็ตามที่จำเป็นต้องพกแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดออกไปใช้งานข้างนอก เราแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดลงมาอีกนิด เพราะหากมีขนาดใหญ่มากจนเกินไป อาจจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้เราต้องแบกเมื่อต้องเดินทางออกไปข้างนอก อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่จนเกินไปจนพกพาลำบากอีกด้วย

แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดนั้นมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งเราควรเลือกให้เหมาะสมและอำนวยความสะดวกสบายให้เรามากที่สุดขณะใช้งาน แป้นพิมพ์สามารถแบ่งแยกกลไกการทำงานได้เป็นดังนี้

กลไก Membrane – แป้นพิมพ์ที่ใช้กลไกชนิดนี้มักมีราคาถูก และได้รับความนิยมสูง กลไกชนิดี้มีแผ่นยางรูปทรงคล้าย ๆ โดมครอบอยู่ที่ด้านล่างของปุ่ม และจะยุบตัวเมื่อกดปุ่มไปสัมผัสกับแผงวงจรด้านล่าง

แป้นพิมพ์ที่ใช้กลไกชนิดนี้มักมีราคาถูกเพราะไม่ได้ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดีและลื่นไหลมากนัก และมักจะเกิดปัญหาเวลากดหลาย ๆ ปุ่มพร้อม ๆ กัน ตัวแป้นพิมพ์มักจะไม่ทำงาน อีกทั้งยังไม่ค่อยมีความแข็งแรงทนทานอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการใช้แป้นพิมพ์สำหรับทำงานบ่อยมากนัก

กลไก Pantograph – มีลักษณะการทำงานคล้ายกับกลไก Membrane แต่โครงสร้างในส่วนที่สัมผัสกับแป้นจะเป็นรูปตัว X และมีขนาดที่บางมากกว่า จึงทำให้สามารถตอบสนองได้ไวแม้กดปุ่มด้วยแรงที่เบา อีกทั้งยังมีเสียงกดปุ่มที่เบาคงทน แข็งแรง นิยมนำมาใช้กับแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค

กลไก Mechanical – มีความคงทน แข็งแรง ให้สัมผัสที่หนักแน่น ให้จังหวะการพิมพ์ที่ดี คีย์บอร์ดที่ใช้กลไกรุ่นนี้ ปุ่มกดทุกปุ่มจะมีสวิตช์เป็นของตัวเอง เมื่อถูกกด สปริงที่อยู่ด้านล่างปุ่มจะยุบตัว และเด้งกลับตามเดิม จึงให้จังหวะการพิมพ์ที่ดีเยี่ยม หากปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนแฟ้นพิมพ์เสียหาย ก็สามารถแยกซ่อมเป็นปุ่ม ๆ ไปได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานคีย์บอร์ดบ่อย ๆ และใช้เป็นเวลานาน

กลไก Capacitive Switch – เป็นสุดยอดกลไกและนวัตกรรมในการผลิตคีย์บอร์ด เพราะมีการผสานการทำงานระหว่างสปริงและตัวยาง Rubber cup ที่สามารถสั่งการด้วยหลักการไฟฟ้าสถิต จึงมีความแข็งแรง ทนทาน อีกทั้งยังสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ เหมาะกับผู้ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดอย่างหนัก และต้องการการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

คีย์บอร์ดไร้สายทุกชนิด ทุกประเภท จำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งแบตเตอรี่ที่ว่านี้มีอยู่ 2 ประเภทคือ แบบ Recharge และแบบ Dry โดยประเภทแรกนั้นสามารถชาร์จไฟได้เรื่อย ๆ แต่แบบหลังนั้นหากแบตเตอรี่หมดแล้วมักจะหมดเลย ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

และสิ่งสุดท้ายที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อแป้นพิมพ์ไร้สายมาใช้งาน คือการตรวจสอบระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของคุณ ว่าแป้นพิมพ์ที่คุณกำลังซื้อมานี้สามารถรองรับ Operation System กับอุปกรณ์ของคุณได้หรือไม่ ลองตรวจสอบดูว่าแป้นพิมพ์ที่คุณกำลังหมายตามองนี้รองรับ Android, Windows หรือ IOS หรือรองรับทุก ๆ ระบบ

Post a Comment