ASUS แนะนำ ExpertBook B9 รุ่นใหม่ในรหัส B9400 โดยมีดีไซน์คุ้นตาเพราะเป็นรุ่นรีเฟรชของ B9450 ที่ออกมาในปีก่อน แต่ได้รับการปรับปรุงทั้งประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ ความจำ และความทนทานของฮาร์ดแวร์ เพื่อรองรับการใช้งานในภาคธุรกิจ ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบจากแล็ปท็อป
ASUS ExpertBook B9400 เป็นแล็ปท็อปที่ได้รับการรีเฟรชมาจากรุ่น B9450 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ดังนั้น การออกแบบโดยรวมถ้ามองจากภายนอกจะพบว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก แต่รุ่น B9400 มีการปรับปรุงการออกแบบภายในเล็กน้อยเพื่อให้มีความแข็งแรงขึ้น
นอกจากดีไซน์จะคล้ายกับรุ่นก่อน ExpertBook B9400 ยังใช้สี Star Black เหมือนกันอีกด้วย ส่วนบอดี้ใช้วัสดุคุณภาพสูงจากโลหะผสม แม็กนีเซียม-ลิเธียม แข็งแรงกว่า แม็กนีเซียม-อลูมิเนียม แต่มีน้ำหนักเบากว่า
แล็ปท็อป ASUS ExpertBook B9400 ยังมีขนาดโดยรวมพอๆ กับกระดาษ A4 และด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 880 กรัม สำหรับรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ 33Wh บางเพียง 14.9 มิลลิเมตร ทำให้ ExpertBook B9400 พกพาได้อย่างสะดวกสบาย
เมื่อกาง ASUS ExpertBook B9400 ขึ้นมา ก็จะพบกับจุดเด่นของบานพับ ที่ใช้ดีไซน์ ErgoLift ช่วยยกแล็ปท็อปขึ้น 5 องศา ทำให้หน้าจอเอียง 145 องศา พอดีกับมุมมองการรับชม การยกแล็ปท็อปขึ้นมา 5 องศา ยังช่วยให้แผงคีย์บอร์ดถูกยกขึ้นมาตามไปด้วย ช่วยเพิ่มความสบายในการพิมพ์ข้อความ
ขณะที่ด้านล่างของแล็ปท็อป ก็จะลอยขึ้นจากพื้น มีส่วนช่วยในการระบายความร้อน รวมถึงช่วยกระจายเสียงจากลำโพงให้มีมิติมากขึ้น
บานพับของ ASUS ExpertBook B9400 ยังสามารถกางออกได้ถึง 180 องศา จนแบนราบไปกับพื้น เพิ่มความสะดวกในการแชร์หน้าจอร่วมกับเพื่อนร่วมงาน หรือการนำเสนอในระหว่างประชุม
ASUS ExpertBook B9400 เป็นแล็ปท็อปขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ที่มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับแล็ปท็อปขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่ขอบจอรอบด้านบางเฉียบ ขอบบนบาง 7 มิลลิเมตร ขอบด้านข้างบางเพียง 4 มิลลิเมตร ส่งผลให้จอแสดงผลของ ExpertBook B9400 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ถึง 94%
สาเหตุที่ขอบจอด้านบนหนากว่าขอบจอด้านข้าง เป็นเพราะขอบจอด้านบนมีการติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น เริ่มจากกล้อง Webcam ที่มี Webcam Cover ในตัว สามาถรเลื่อนปิดกล้องได้ เพื่อป้องกันการสอดแนมหรือถูกแฮกใช้กล้อง (ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นก็ตาม)
กล้อง Webcam มาพร้อมเซ็นเซอร์ Infrared ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับใบหน้า สำหรับทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Windows Hello และยังมีเซ็นเซอร์ Proximity ช่วยตรวจจับว่าเจ้าของแล็ปท็อปอยู่ใกล้หน้าจอหรือไม่ ถ้าพบว่าผู้ใช้งานไม่ได้อยู่ใกล้หน้าจอ ก็จะล็อคหน้าจอให้ทันที
แผงคีย์บอร์ดแบบ Backlight ได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานละอองน้ำได้ และให้ระยะการเดินทางของแต่ละปุ่มที่ 1.5 มิลลิเมตร พร้อมเพิ่มปุ่มทางลัด 2 ปุ่ม ถัดจากปุ่ม F12 ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการทำงานช่วง Work From Home ที่อาจมีการประชุมทางไกลเป็นประจำ โดยปุ่มแรกช่วยตัดเสียงไมโครโฟน และปุ่มถัดมาสำหรับเปิดหรือปิดระบบ AI สำหรับการตัดเสียงรบกวน อีกทั้งยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย (อยู่ใต้ปุ่ม End)
ส่วนของทัชแพดขนาดใหญ่ยังใส่ฟีเจอร์ NumberPad 2.0 สามารถแสดงปุ่มกดตัวเลข เพิ่มความคล่องตัวในการใช้แอพด้านบัญชี เพียงแตะไอคอนเปิด NumberPad ที่มุมบนขวาของทัชแพด นอกจากนี้ NumberPad ยังเปลี่ยนเป็นฟีเจอร์เครื่องคิดเลขได้ เพียงลากนิ้วในแนวทแยงจากมุมบนซ้ายมายังเลข 5 (กรณีต้องการปรับความสว่างของ NumberPad ให้แตะที่ไอคอนมุมบนซ้าย)
ขอบล่างใต้ทัชแพดยังมีการติดตั้ง Light bar มาให้ด้วย ซึ่งเป็นแถบแสงที่จะสว่างขึ้นเมื่อมีการโต้ตอบกับผู้ช่วยดิจิตอลอย่าง Alexa แต่เนื่องจากประเทศไทยยังไม่รอวรับการใช้งาน Alexa ตัว Light Bar จะแสดงสถานะแบตเตอรี่ว่าชาร์จเต็มรึยังเวลาเสียบปลั๊กแทน
มุมมองด้านข้างจะเห็นความบางของ ExpertBook B9400 อย่างชัดเจน รวมถึงดีไซน์ ErgoLift ของบานพับเมื่อกางส่วนหน้าจอขึ้น แต่ถึงแม้จะมีความบาง ก็ยังติดตั้งพอร์ต HDMI แบบ Full Size มาให้ รวมกับพอร์ต RJ45 LAN (ผ่านพอร์ต Micro HDMI) และยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 (USB Type-C) อีก 2 ช่อง (รุ่นก่อนหน้าเป็น Thunderbolt 3)
อีกข้างหนึ่งมี Kensington lock slot สำหรับล็อคตัวแล็ปท็อปเพื่อป้องกันการโจรกรรม ถัดมาเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen 2 (USB Type-A) และช่องเสียบหูฟัง หรือ ไมโครโฟน แบบ Combo
เมื่อจับตัวเครื่องพลิกมาดูที่ด้านล่าง จะพบลำโพง 2 ตัว ติดตั้งไว้ที่ด้านข้างซ้ายและขวา บนขอบที่มีความลาดเอียง เพื่อให้เสียงถูกขับออกมาอย่างเต็มที่แม้วางบนพื้นราบ และยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วยการปรับแต่งเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง Harman Kardon
ถึงแม้ดีไซน์ภายนอก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน แต่ก็ถือว่ามีความทันสมัยและโฉบเฉี่ยว เนื่องจากการออกแบบเดิมนั้นดีอยู่แล้ว การันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบจาก Red Dot Design 2020
อย่างไรก็ตาม กล่องบรรจุภัณฑ์ของ ASUS ExpertBook B9400 มีการออกแบบใหม่ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แทนที่จะเก็บกล่องไว้ให้เปลืองพื้นที่ หรือทิ้งกล่องไปเปล่า ก็สามารถนำกล่องที่เก็บอุปกรณ์เสริมมาใช้เป็นแท่นวางแล็ปท็อปได้
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าดีไซน์ภายนอกของรุ่น B9400 ดูกล้ายกับรุ่นก่อน อย่างไรก็ตาม การออกแบบภายในได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแรงมากขึ้น โดยมีการเสริมแผ่นป้องกันแผงจอ LCD ช่อยรองรับแรงกดทับได้มากกว่ารุ่นก่อน โดยที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียง 10 กรัม ทำให้โครงสร้างภายในของ ASUS ExpertBook B9400 มีความแข็งแรงกว่าแล็ปท็อปทั่วไป
นอกจากเสริมแผ่นป้องกันแผงจอ LCD ยังมีการเพิ่มความแน่นหนาตามพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ไม่สั่นคลอนหรือหลวมเมื่อมีการเสียบและถอดออกบ่อยๆ ส่วนช่องว่างต่างๆ ระหว่างแผงวงจร ก็ถูกเสริมด้วยแผ่นยาง ช่วยรองรับแรงกดทับได้มากขึ้น
ความทนทานยังคงเป็นจุดแข็งของ ASUS ExpertBook B9400 ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่น B9450 แต่ว่ามีการปรับปรุงให้แข็งแรงมากขึ้น จนได้รับมาจรฐานความทนทาน US MIL-STD 810H (รุ่นก่อนได้รับมาตรฐาน MIL-STD-810G) ซึ่งต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดตามมาตรฐานทางการทหารของสหรัฐฯ ทั้งการกดทับ การสั่นสะเทือน การกระแทก และการตกจากที่สูง
ASUS ExpertBook B9400 ยังผ่านการทดสอบที่เข้มงวดจาก ASUS ตามมาตรฐานต่อไปนี้
• บานพับ ผ่านการเปิด-ปิดถึง 50,000 ครั้ง โดยใช้แรงดึง 50 กิโลกรัม (แล็ปท็อปทั่วไปผ่านการทดสอบ 20,000 ครั้ง โดยใช้แรงดึง 30 กิโลกรัม)
• ทดสอบแรงกด 30 กิโลกรัม จากด้านบนและด้านล่าง โดยไม่ทำให้จอแสดงผลเสียหาย
• ทนทานต่อแรงกระแทกทั้ง 6 ทิศทาง จากความเร็ว 150G หรือ 2.5ms
ASUS ExpertBook B9400 มาพร้อมจอแสดงผล Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ขนาด 14 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 16:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 94% ขอบจอบางเฉียบเพียง 4 มิลลิเมตร ที่ขอบด้านข้าง (ส่วนขอบบน 7 มิลลิเมตร) ทำให้มีขนาดบอดี้เล็กพอๆ กับแล็ปท็อปทั่วไปที่มีขนาด 13 นิ้ว
จอแสดงผลของ ExpertBook B9400 ให้ความสว่าง 400nits ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB (NTSC: 72%) แสดงภาพคมชัดแม้มองจากด้านข้างด้วยเทคโนโลยี IPS (ให้มุมมองกว้าง 178 องศา) และป้องกันแสงสะท้อน
สำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการขยายหน้าจอ ASUS ExpertBook B9400 สามารถส่งภาพออกจอภาพภายนอกได้ โดยรองรับการเชื่อมต่อกับจอ 4K ได้พร้อมกัน 2 จอ รวมจอแล็ปท็อปด้วยเป็น 3 จอ
ASUS ExpertBook B9400 ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่กว่า โดยใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 11 ของ Intel และมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ Intel Core i7-1165G7 กับ Intel Core i5-1135G7 ทั้ง 2 ตัวเลือกมาพร้อมกราฟิก Intel Iris Xe
ด้านความจำมาพร้อม RAM 8GB / 16GB / 32GB แบบ LPDDR4x ความเร็ว 4266MHz และใช้พื้นที่ความจุภายในแบบ Dual M.2 NVMe PCIe 3.0 x4 ขนาด 512GB / 1TB / 2TB อีกทั้งยังสนับสนุนเทคโนโลยี RAID 0, RAID 1
ASUS ExpertBook B9400 มาพร้อมโหมด Performance รองรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เพียงแตะที่แอพ MyASUS มองไปที่ส่วน Hardware settings เลือก Fan Profile แล้วคลิกที่ Performance mode หากต้องการเลิกใช้ Performance mode ให้กลับเข้ามาเลือก Standard mode หรือเลือก Whisper mode สำหรับการทำงานเบาๆ
ASUS ExpertBook B9400 เป็นแล็ปท็อประดับโปรที่ผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel Evo ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อให้ผู้บริโภควางใจในการใช้งานแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการใช้งานรอบด้าน ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานมากมายหลายข้อของ Intel เช่น ต้องใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 11 ของ Intel ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกราฟิก Intel Iris Xe รองรับการตัดต่อภาพถ่ายหรือวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกราฟิก Intel Iris Xe ก็มีเทคโนโลยีในตัวที่ล้ำหน้า ช่วยส่งมอบประสิทธิภาพอีกมากมาย เช่น
• มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการทำงาน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จะใช้เพื่อการตัดต่อ ตกแต่ง หรือเล่นเกม ก็ใช้งานได้อย่างดี
ไม่เพียงแค่นั้น แล็ปท็อปที่ผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel Evo จะต้องมีดีไซน์บางเบา ขอบจอบางเฉียบ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าแล็ปท็อปทั่วไป สนับสนุนการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ ทั้ง Wi-Fi 6 (เร็วกว่าเดิม 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Wi-Fi 5) และ Thunderbolt 4 (ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่อัตรา 40GB/s)
อีกจุดเด่นของ ASUS ExpertBook B9400 อยู่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อรองรับการใช้งานภาคธุรกิจ เริ่มตั้งแต่ความปลอดภัยด้านฮาร์ดแวร์ ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
กล้องเว็บแคบแบบ Webcam Shield ที่มีฝาปิดเลนส์สามาถเลื่อนปิดกล้องเมื่อไม่ได้ใช้งาน ป้องกันการสอดแนมได้ 100% และยังใช้ IR Camera ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการจดจำใบหน้า รองรับการใช้งานในที่มืด
กรณีที่มีการวาง ASUS ExpertBook B9400 ในพื้นที่เปิด ที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง ก็ยังมี Kensington lock สำหรับป้องกันการโจรกรรม และมี USB Port Control ระบบล็อคอุปกรณ์ USB เพื่อควบคุมการอ่านหรือเขียน
ด้านซอฟต์แวร์ ASUS ExpertBook B9400 มาพร้อม Trusted Platform Module (TPM) ระบบรักษาความปลอดภัยในระดับองค์กร ช่วยเก็บรหัสผ่านและการเข้ารหัสต่างๆ ให้มีความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วย McAfee LiveSafe วางใจได้ในเรื่องการป้องกันไวรัส และปกป้องข้อมูลส่วนตัว และยังมาพร้อม ASUS Business Manager ชุดโปรแกรมอรรถประโยชน์ สำหรับการบำรุงรักษาตัวเครื่องและซอฟต์แวร์ สามารถจัดการตัวเครื่องจากศูนย์ควบคุมระยะไกล
ASUS ExpertBook B9400 ติดตั้งไมโครโฟนมาให้ถึง 4 ตัว วางอยู่ตามแนบขอบจอแสดงผลด้านบน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ขอบจอด้านบน หนากว่าขอบด้านข้าง โดยไมโครโฟน 4 ตัว สามารถดักจับเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ช่วยกรอบเสียงรบกวนออก เพื่อให้การสนทนาในระหว่างประชุมทางไกล หรือ วิดีโอแชท มีความคมชัด ตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง ในทางกลับกัน AI ยังช่วยกรองเสียงรบกวนจากคู่สายสนทนาให้ด้วย
เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ASUS ได้ติดตั้งปุ่มทางลัดสำหรับเปิด/ปิดไมโครโฟน และเปิด/ปิด AI ตัดเสียงรบกวน มาให้ที่แถวบนสุดของแผงคีย์บอร์ด ถัดจากปุ่ม F12 ไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปเปิด/ปิด ผ่านแอพ MyASUS ให้ยุ่งยาก
ด้านคุณภาพเสียง ASUS ExpertBook B9400 มาพร้อมเทคโนโลยี Smart Amplifier ทำงานร่วมกับลำโพงคู่ให้เสียงสเตอริโอ และได้รับการปรับแต่งเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง Harman Kardon และด้วยการออกแบบบานพับในดีไซน์ ErgoLift เมื่อตัวเครื่องถูกยกหลังจากกางหน้าจอ จะทำให้ลำโพงทั้งสอง ถูกยกให้สูงจากพื้นตามไปด้วย ช่วยให้ให้เสียงถูกขับออกมาอย่างมีมิติมากขึ้น
ASUS ExpertBook B9400 มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น เริ่มจากรุ่นที่มีน้ำหนัก 880 กรัม ได้รับแบตเตอรี่ 33Whr ให้อายุการใช้งานยาวนาน 9.5 ชั่วโมง สำหรับการเล่นวิดีโอ และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 60% ในเวลาเพียง 39 นาที หรือ ชาร์จถึง 80% ในเวลา 55 นาที
รุ่นที่มีน้ำหนัก 1005 กรัม ได้รับแบตเตอรี่ 66Whr ให้อายุการใช้งานยาวนาน 20.7 ชั่วโมง สำหรับการเล่นวิดีโอ และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 60% ในเวลาเพียง 49 นาที หรือ ชาร์จถึง 80% ในเวลา 62 นาที
เนื่องจากเป็นแล็ปท็อประดับพรีเมียม ASUS ExpertBook B9400 จึงมาพร้อมเงื่อนไขการรับประกันที่พิเศษกว่าแล็ปท็อปรุ่นอื่น โดย ASUS ให้การรับประกัน 3 ปี ทั่วโลก, รองรับบริการซ่อมแซมถึงที่ หรือ Onsite Service นาน 3 ปี, ประกันอุบัติเหตุในปีแรก และสนับสนุนการบริการหลังการขายผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์
ASUS ExpertBook B9400 ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่น B9450 ที่วางจำหน่ายในปีที่แล้ว ถึงแม้ดีไซน์ภายนอกยังคงเดิม แต่ได้รับการปรับปรุงโครงการภายในให้แข็งแรงมากขึ้น มีความทนทานกว่าแล็ปท็อปทั่วไป ถึงแม้จะมีดีไซน์บางเบาก็ตาม นอกจากจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ประสิทธิภาพก็ได้รับการปรับปรุงด้วย โดยใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 11 ของ Intel ผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel Evo และยังอัพเกรดความจำให้เร็วขึ้น รวมถึงสนับสนุน RAID 0, RAID 1
ASUS ExpertBook B9400 ยังพกพาได้อย่างสะดวก แบตเตอรี่ให้พลังงานยาวนาน และมาพร้อมการรับประกันที่เหนือระดับกว่า ทำให้ ASUS ExpertBook B9400 เป็นแล็ปท็อปที่ตอบโจทย์การใช้งานภาคธุรกิจทั้ง SME และ Start Up รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ในวัยทำงาน โดยเฉพาะสาขาการตลาด, ประชาสัมพันธ์, ที่ปรึกษาการขาย, การลงทุน, ฝ่ายไอที และสาขาอื่นๆ ที่ต้องใช้งานแล็ปท็อปนอกสถานที่อยู่เป็นประจำ
Post a Comment