แม้ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่อุปกรณ์เพื่อการเล่นเกม โดยเฉพาะ Mechanical Keyboard นั้นกลับเติมโตอย่างเห็นได้ชัดซึ่งกระแสคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบหรือโมดิฟายมาเพื่อตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์เล่นเกมนั้นก็ได้เกาะพ่วงกระแสเติบโตขึ้นมาอย่างที่เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ว่าได้… อุปกรณ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแค่สิ่งที่จำเป็นต้องมีไม่ให้ได้ความสำคัญอะไรในรายละเอียดมากนักอย่างคีย์บอร์ดเมื่อก้าวผ่านเข้าสู่ยุคของเกมเมอร์แล้วกลายเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆในอุตสาหกรรมเกมมิ่งคอมพิวเตอร์เพราะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีสำหรับเกมเมอร์นั้นหมายถึงผลแพ้ชนะที่สร้างความแตกต่างกันได้อย่างสุดขั้ว ซึ่งผลของกระแสคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับคอเกมเมอร์อันหอมหวนนี้ทำให้ผู้ผลิตทั้งที่มีอยู่ในตลาดเดิมและผู้ผลิตหน้าใหม่ต่างก้าวเข้ามาขอมีส่วนแบ่งในเค้กก้อนโตก้อนใหม่นี้กันอย่างสนุกสนานด้วยการพัฒนาอุปกรณ์เสริมหลากหลายด้านออกสู่ตลาดจนทำหลายคนแม้จะไม่ใช่ผู้เล่นเกมก็ต่างอย่างที่จะทดลองและเป็นเจ้าของอุปกรณ์เหล่านี้

คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ป้อนข้อมูลที่สำคัญที่สุด พัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องพิมพ์ดีดที่ถูกแทนที่ด้วยการเข้ามาของเครื่องคอมพิวเตอร์ ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีการป้อนข้อมูลให้เลือกใช้หลากหลายประเภทในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็น เมาส์, เมาส์ปากกา, จอสัมผัส, กล้อง หรือแม้แต่การป้อนข้อมูลด้วยเสียงก็ตามที Keyboard ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ยังมีความสำคัญเพราะการตอบสนองกลับทางกายภาพ (ลองเทียบกันระหว่างพิมพ์สัมผัสบนจอสมาร์ทโฟน กับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ดูสิ) และความแม่นยำ ที่เป็นจุดเด่นของคีย์บอร์ดสำหรับการข้อความ พิมพ์เอกสาร ได้สะดวกรวดเร็วที่สุด ตราบเท่าที่นิ้วมือของท่านจะเคลื่อนไหวไปบนแป้นพิมพ์ได้เร็วแค่ไหนแป้นพิมพ์ก็จะรับคำสั่งได้รวดเร็วมากเท่านั้น !!! โดยคีย์บอร์ดในปัจจุบันจะสามารถแบ่งการทำงานในด้านกลไกปุ่มกดออกมาได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ดังนี้

• วิธีนี้จะใช้แผ่นยางปั้มนูนเพื่อให้เรากด เมื่อกด ยางจะต่อขั้วไฟฟ้าจนครบวงจรแล้วส่งค่าปุ่มคำสั่งที่รับมาต่อไปยังคอมพิวเตอร์ ข้อดีคือกลไกการรับคำสั่งแบบนี้มีต้นทุนต่ำมากส่งผลให้ตัวคีย์บอร์ดนั้นมีราคาค่อนข้างจะถูกโดยเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยบาท เพราะใช้ชิ้นส่วนในการผลิตน้อย แต่ก็มีข้อเสียคือถ้ากดปุ่มคีย์บอร์ดหลาย ๆ ปุ่ม พร้อม ๆ กันหรือต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน อาจเกิดการผิดพลาดในการรับคำสั่งได้ง่ายและยังมีปัญหาจากการผิดพลาดของแผงวงจรเกิดขึ้นง่ายทำให้เป็นคีย์บอร์ดที่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนานมากนัก

• Mechanical Keyboard เป็นต้นกำเนิดของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ในยุคแรกเริ่มเลยทีเดียว โดยหลักการทำงานของกลไกแบบ Mechanical คือแต่ละปุ่มกดจะมีกลไกของสปริงในการยกปุ่มลอยเหนือขั้วไฟฟ้าข้างในสวิตช์ เมื่อผู้ใช้กดปุ่มลงไป ขั้วไฟฟ้าจะครบวงจรแล้วส่งค่าปุ่มคำสั่งที่รับมาต่อไปยังคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อดีคือมีความแม่นยำในการป้อนข้อมูลสูงมาก โดยแต่ละปุ่มจะมีกลไกรับค่าคำสั่งเป็นตัวของตัวเอง รองรับการรับคำสั่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันหรือแม้กระทั่งเกิดขึ้นติดต่อกันอย่างต่อเนื่องจากการรัวปุ่มกดเดิมซ้ำๆ กันก็สามารถตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างแม่นยำ จึงมักถูกเลือกให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ในการเป็นคีย์บอร์ดของเหล่าเกมเมอร์ แต่ก็แลกมาด้วยราคาค่าตัวคีย์บอร์ดที่ค่อนข้างจะสูงเนื่องจากกลไกการทำงานที่ซับซ้อนและใช้ชิ้นส่วนในการประกอบที่มากกว่า

ตามที่ได้เกริ่นคร่าวๆ ไว้ในหัวข้อที่ผ่านมาว่าความแม่นยำสูง การตอบสนองอย่างรวดเร็วมาก รวมถึงการใช้แรงในการกดปุ่มคำสั่งแต่ละปุ่มที่น้อยกว่า Rubber Dome อย่างเห็นได้ชัดซึ่งและยิ่งเมื่อเป็นการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอย่างการเล่นเกมอย่างหนักหน่วง หรือ การพิมพ์งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ด้วยแรงกดที่แตกต่างกับการตอบสนองของคีย์บอร์ดที่ดีเยี่ยมมากกว่าของ Mechanical ทำให้ใครหลายๆที่ได้ลองใช้ Mechanical Keyboard แล้วต่างติดใจและหลงใหลในคีย์บอร์ดประเภทนี้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตได้ออกแบบให้การใช้งาน Mechanical Keyboard นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไปเพื่อตรงกับความต้องการในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยความแตกต่างนั้นเป็นผลลัพธ์ของการเลือกใช้ “สวิตช์” (Switch หรือ ปุ่มกด) ที่แตกต่างกัน จึงส่งผลถึงรูปแบบการกด โทนเสียงที่ได้ โดยบริษัทผู้ผลิต Mechanical Keyboard นั้นส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้สวิตช์ (Switch หรือ ปุ่มกด) จากบริษัท Cherry มาประกอบเป็นตัวคีย์บอร์ด หรือผู้ผลิตบางส่วนที่เลือกทำสวิทช์เองก็ยังคงต้องอ้างอิงสเปคของสวิตช์ตัวเองเปรียบเทียบกับตัวสวิทช์ของบริษัท Cherry เป็นหลักหรือเรียกได้ว่าสวิตช์ของบริษัท Cherry นั้นกลายเป็นมาตรฐานของสวิตช์ใน Mechanical Keyboard ก็คงไม่ผิดนัก ดังนั้นคุณยังไม่ควรที่จะเลือกซื้อ Mechanical Keyboard หากยังไม่รู้จักว่าสวิทช์ Cherry MX แต่ละตัวนั้นมีดีอย่างไร !!!

Cherry เป็นบริษัทผู้ผลิตคีย์บอร์ดและอุปกรณ์อินพุตข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์อันเก่าแก่จากอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1953 ผลิตคีย์บอร์ดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1967 ถือว่าเป็นผู้ผลิตคีย์บอร์ดที่มีอายุยาวนานที่สุดในวงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่ยังคงทำกิจการอยู่ ในปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการในประเทศเยอรมัน และยังมีไลน์การผลิตคีย์บอร์ดออกมาวางจำหน่ายอยู่ควบคู่ไปกับการขายสวิตช์คีย์บอร์ดชื่อดังรุ่น Cherry MX ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและความน่าชื่อถือของบริษัท ซึ่งในส่วนของสวิตช์ที่มีจำหน่ายและได้รับความนิยมในการนำไปใช้เป็นกลไกในการผลิต Mechanical Keyboard ยี่ห้อต่างๆ นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

สวิตช์นี้มีการตอบสนองแบบ Linear Switch คือมีการตอบสนองอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่คุณเริ่มกดปุ่มจนปล่อยมือ มีข้อดีที่การกดอย่างต่อเนื่อง ทำได้อย่างสะดวกมาก เสียงปุ่มกดอยู่ในระดับที่ดัง ใช้น้ำหนักในการกดที่สูง เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการกดคีย์บอร์ดอย่างรัวแต่ต้องการการสัมผัสที่หนักแน่น ไม่กดง่ายจนเกินไป

สวิตช์นี้มีการตอบสนองแบบ Linear Switch คือมีการตอบสนองอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่คุณเริ่มกดปุ่มจนปล่อยมือ มีข้อดีที่การกดอย่างต่อเนื่อง ทำได้อย่างสะดวกมาก เสียงปุ่มกดอยู่ในระดับที่เบา ใช้น้ำหนักในการกดที่ต่ำ เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการกดคีย์บอร์ดอย่างรัวเป็นพิเศษเพราะใช้น้ำหนักในการกดที่น้อยกว่ารุ่น MX Black

สวิตช์นี้มีการตอบสนองแบบ Tactile Switch คือมีกลไก 2 ระดับ คุณจะรู้สึกได้ว่าต้องออกแรงมากกว่า Linear Switch เล็กน้อย เป็นสวิตช์ที่เกิดการผิดพลาดในการกดปุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจน้อยมากเพราะเป็นกลไล 2 ระดับ ให้การตอบสนองเป็นพิเศษ มีเสียงในการกด “คลิ๊ก” ที่ดัง และใช้น้ำหนักในการกดที่สูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการพิมพ์คีย์บอร์ด โดยใช้มีการตอบสนองทั้งสัมผัสและเสียงอย่างชัดเจน ไม่เน้นการกดย้ำๆ รัวๆ เพราะอาจทำได้ไม่รวดเร็วเท่า Linear Switch แต่มีข้อควรระวังที่เสียงปุ่มกดอาจรบกวนผู้อื่นได้

สวิตช์นี้มีการตอบสนองแบบ Tactile Switch คือมีกลไก 2 ระดับ คุณจะรู้สึกได้ว่าต้องออกแรงมากกว่า Linear Switch เล็กน้อย เป็นสวิตช์ที่เกิดการผิดพลาดในการกดปุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจน้อยมากเพราะเป็นกลไล 2 ระดับ ให้การตอบสนองเป็นพิเศษ มีเสียงในการกดที่เบา และใช้น้ำหนักในการกดที่ต่ำกว่า Cherry MX Blue เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการพิมพ์คีย์บอร์ด โดยใช้มีการตอบสนองอย่างชัดเจนแต่ไม่ชอบเสียง “คลิ๊ก” ไม่เน้นการกดย้ำๆ รัวๆ เพราะอาจทำได้ไม่รวดเร็วเท่า Linear Switch

• ส่วนประกอบที่หุ้มบนสวิทช์สำคัญไม่แพ้กับตัวสวิทช์เลยทีเดียว เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ถูกสัมผัสกับผิวมือคุณโดยตรง เป็นชิ้นส่วนที่บอกตำแหน่งปุ่มกดและมีส่วนเสริมภาพลักษณ์โดยรวม บางรุ่นมีการเคลือบยางบริเวณผิวสัมผัสด้านบนเพื่อป้องกันการไถลของนิ้วไปโดนปุ่มอื่นๆ ขณะใช้ความเร็วในการกดอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ชอบรูปลักษณ์ minimalist อาจเลือกปุ่มที่ไม่มีตัวอักษรใดๆ ซึ่งผู้ใช้จะต้องพิมพ์สัมผัสให้คล่องตัว

• โครงสร้างคีย์บอร์ดนั้นผู้ผลิตได้เลือกใช้วัสดุหลากหลายประเภทเพื่อสร้างความแตกต่างในแต่ละรุ่นของคีย์บอร์ด ซึ่งแน่นอนว่าคีย์บอร์ดที่ผลิตจากโลหะนั้นย่อมมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าคีย์บอร์ดที่ใช้พลาสติกเป็นโครงสร้างหลัก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวของคีย์บอร์ดที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน

• จุดเด่นของไฟบนคีย์บอร์ดคือความสะดวกขณะใช้งานในที่มืดลดโอกาสในการพิมพ์ผิดเพราะมองปุ่มบนคีย์บอร์ดไม่ถนัด ซึ่งคีย์บอร์ด Mechanical หลายรุ่นจึงต่อยอดฟังก์ชั่นนี้ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ปรับเปลี่ยนสีไฟ, แยกสีสันตาม Zone, แบบเปลี่ยนสีได้ในทุกปุ่ม หรือแสดงสีสันเคลื่อนไหวเป็นลวดลายสวมงาน นอกจากนี้บางรุ่นยังมีการแสดงสีไฟบนตำแหน่งพิเศษอื่นๆเพื่อเพิ่มอถรรสในการใช้งาน ซึ่งก็แลกมาด้วยอัตราการบริโภคพลังงานที่สูงขึ้นตามกัน

• สายเชื่อมต่อก็สำคัญไม่แพ้กันกับส่วนอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักเลือกใช้สายที่เหมาะสมกับประสิทธิภาพของตัวคีย์บอร์ดอยู่แล้ว แต่หากคุณต้องการที่จะอัพเกรดสายหรือเป็นห่วงเรื่องสายชำรุด ผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อก็มีคีย์บอร์ดรุ่นที่สามารถถอดแยกสายออกจากตัวคีย์บอร์ดให้คุณเลือกซื้อเช่นเดียวกัน เป็นทางเลือกที่คุณจะได้ไม่ต้องซื้อคีย์บอร์ดใหม่ทดแทนของเก่าเพราะสายมีปัญหา อีกทั้งเหมาะสำหรับคนชอบ LAN Party หรือสายแข่งขัน E-Sport เพราะทำให้การพกพาไปนอกสถานที่นั้นทำได้สะดวกยิ่งขึ้น

• USB Hub บนตัวคีย์บอร์ดเป็นเสมือนออปชั่นเสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นการเสียบแฟลชไดร์ฟ, เมาส์, ชุดหูฟัง ฯลฯ ก็ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วคล่องตัว และไม่ไปแย่งพอร์ตบนคอมพิวเตอร์อีกด้วย อย่างไรก็ดี USB Hub ที่ฝังบนคีย์บอร์ดนั้นไม่ได้ออกแบบมาให้มีความเร็วในการโอนถ่ายสูงเทียบเท่าการเสียบตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อเมาส์หรือหูฟัง แต่ไม่เหมาะสมกับการต่อกับฮาร์ดดิสก์ภายนอก หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ต้องการกระแสไฟและความเร็วในการโอนถ่ายสูง

ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Mechanical Keyboard ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เชื่อได้ว่าเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายที่ยังคงใช้ Rubber Dome อยู่คงต้องรีบไปตามหามาครอบครองซะแล้ว เพราะปัจจุบันนี้ Mechanical Keyboard นั้นมีฟังก์ชั่นต่างๆที่เป็นตัวเลือกในตลาดมากกว่าในอดีต และระดับราคาที่มีหลากหลายกลุ่มก็ตอบโจทย์ผู้มีงบประมาณที่แตกต่างกันออกไป… อย่าให้ความผิดพลาดของคีย์บอร์ดมาตัดสินผลแพ้ชนะของคุณในการแข่งขันครั้งหน้า เลือกให้ Mechanical Keyboard ตัวโปรดคู่ใจให้ไวเลยครับ !!!

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Lethal Squirrel ที่ และ

Post a Comment