ต้องยอมรับว่าตลาด Thin & Light Laptop นั้นมาแรงมาก ๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 ยาวจนมาถึงต้นปี 2021 นี้ ด้วยสถานการณ์โควิดที่ส่งผลต่อการทำงานโดยตรง ทำให้ผู้ใช้ส่วนมากเลือกที่จะมองหา Laptop ดี ๆ สักเครื่องใน Class Business เอาไว้ใช้งาน พร้อมทุกที่ทุกสถานการณ์ครับ

วันนี้ผมได้รับ HP Spectre X360 มาจาก Intel เพื่อทดสอบสมรรถนะ ความสามารถ ต้องยอมรับว่าครั้งแรกที่เห็น ผมก็ตกหลุมรักการออกแบบ ดีไซน์ ของตัวเครื่องในทันที ทั้งการเลือกวัสดุที่ใช้ผลิต รวมไปถึงการวาง Port การเชื่อมต่อ และ Layout ของคีย์บอร์ดที่เข้ากับมือผมพอดี รวมไปถึงตัว Touch Pad ที่ใช้งานได้ดีไม่แพ้กับ Macbook เลยทีเดียว ทำให้ผมชอบมันมากและวางไม่ลงหลังจากได้ใช้งานครับ

โดยเจ้าตัว Spectre X360 13T-AW200 นั้นจะออกมาแทนรุ่นเก่าเมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่มาพร้อมกับ Intel Gen 10th และเมื่อรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Intel Gen 11th (Tiger Lake) นั้นก็จะมาพร้อมกับ iGPU อย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่มีความสามารถสูงกว่า iGPU ทั่ว ๆ ไป แน่นอนว่ามันสามารถเล่นเกมได้สบาย ๆ อย่างไม่ต้องสงสัยครับ

HP Spectre X360 นั้นจะมี Port การเชื่อมต่ออยู่ 4 ช่อง โดยจะเป็น Thunderbolt™ 4 USB 4 2 ช่อง ที่รองรับ Fast Charge และ USB Type A รวมไปถึงช่องต่อหูฟัง 3.5mm ที่ยังคงใส่เข้ามาให้เหมือนเดิม

ความพิเศษของ HP Spectre X360 นั้นก็คือหน้าจอที่จะเป็นแบบ OLED Display ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ sRGB ที่ 100% โดยต้องบอกเลยว่ามันแสดงภาพออกมาได้สวยงามมาก ๆ จากการทดสอบแสงสีแล้วสามารถแสดงสีดำได้สนิทจริง ๆ ตัว Laptop เป็นแบบ 2-1 สามารถพับหน้าจอไปใช้ใน Tablet Mode ได้ และยังรองรับปากกา HP Stylus Pen ครับ

และแน่นอนว่า HP Spectre X360 ตัวนี้อยู่ใน Platfrom ของ Intel Evo ที่จัดเต็มกับเทคโนโลยีระบบ Premium ของ Laptop ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับ การเชื่อมต่อได้มาตรฐาน Intel Wi-Fi 6 AX 201 และ Bluetooth 5 รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ และการ Login ผ่าน Windows Hello พร้อมกับกล้องเว็บแคมแบบ HD ที่สามารถเปิดปิดได้เองด้วยมือ และ Microphone แบบ Dual Microphone ที่ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ ทำให้เราจะใช้ Video Call ผ่าน Zoom, Microsoft Team, Skype ที่ไหนก็ได้โดยไม่มีเสียงรบกวน

ด้านการออกแบบนั้น HP Spectre X360 ใช้วัสดุแบบ aluminum ทั้งตัว โดยมีความบางอยู่ที่ 17 มิลลิเมตร และหนัก 1.2 กิโลกรัม ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4-cell, 60 Wh Li-ion รองรับการ Fast charge ได้ที่ 50% ใน 30 นาที ต้องยอมรับว่าการออกแบบของ HP นั้นทำให้เจ้า Spectre X360 ดูเรียบหรูสวยงามมาก ๆ

HP Spectre X360 นั้นยังคงให้ความรู้สึกเหมือนกับ Laptop Thin & Light อื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป สำหรับคนที่ใช้งานเอกสารทั่วไปแบบผมนั้นก็จะรู้สึกชอบคีย์บอร์ดแบบ Full-size backlit ที่ไม่ต่างจากคีย์บอร์ดของ PC Desktop สักเท่าไรนัก

แต่ในงานกราฟิกอย่าง Photoshop นั้นต้องยอมรับว่าด้วยจอ OLED ทำให้มันแสดงแสงสีออกมาได้สวยงามยิ่งกว่า Monitor PC ที่ผมใช้เป็นประจำเสียอีกครับ แต่น่าเสียดายที่ตัว Battery นั้นยังคงทำได้ไม่ดีสักเท่าไร เพราะแบตมันหมดไวมาก

ผมได้เปิดใช้ Power Save Mode พร้อมกับเปิดใช้งานทั่วไปอย่างพิมพ์งาน ท่องเว็บ ฟังเพลงผ่าน Spotify สามารถอยู่ได้ที่ราว ๆ 7-8 ชั่วโมงครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมระบบ Instant On ทำให้ฝาเครื่องออกจากโหมด Sleep และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าหรือลายนิ้วมือ พร้อมใช้งานได้ทันทีใน 1 วินาทีครับ

อีกทั้งตัว Laptop ก็ยังหนักอยู่ ทำให้รู้สึกถือไปไหนมาไหนไม่สะดวกเท่าไร อาจจะเป็นเพราะผมเคยใช้ Laptop เบาบางอย่าง Dynabook มาแล้วก็เลยรู้สึกแบบนั้นครับ

ในการใช้งานของ Tablet Mode นั้นก็ยังคงทำได้ดีทั่วไป ตัวเครื่องมาพร้อมกับลำโพง Bang & Olufsen ที่มีคุณภาพเสียงดีกว่า Laptop รุ่นอื่น ๆ ในตลาดอย่างแน่นอนครับ

Intel Iris Xe Graphic เป็น iGPU ที่ทำหน้าที่ได้ดี โดยจากผลทดสอบนั้น ผมได้เล่นเกมในความละเอียด 1080p โดยใช้ Preset ในเกมเป็น Normal ทั้งหมด และเกมส่วนใหญ่ก็จะได้ Frame Rate 50fps avg ขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ครับ

HP Spectre X360 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหา Laptop Thin & Light ในราคาที่จับต้องได้ ทั้งวัสดุที่ใช้ และรูปร่างหน้าตา การออกแบบ ทำให้ผมชอบเจ้า Laptop ตัวนี้มาก และสำหรับผู้ใช้งานสายกราฟิกเองก็ต้องบอกว่าหน้าจอ OLED ของเขานั้นดีจริง ๆ โดยทั้งหมดนี้เราสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 40,000 บาทต้น ๆ เท่านั้นครับ

Post a Comment