[Review] ROG STRIX GL10DH คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตัวแรงจากแบรนด์ดัง ในราคาเบาๆ สบายกระเป๋า – Comp Gamer

หากพูดถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Desktop PC เชื่อว่าผู้ใช้งานหลายคนคงนึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบที่เราไปสั่งอุปกรณ์ต่างๆ จากร้านคอมให้ประกอบให้ด้วยการเลือกอุปกรณ์ชิ้นต่างๆ ทั้ง การ์ดจอ แรม ฮาร์ดดิสก์ เมนบอร์ด เพราะได้ของแรงตามกำลังทรัพย์และยังคุมงบได้อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าสมัยนี้ Desktop PC ของแบรนด์ต่างๆ ก็มีออกมาให้เลือกมากมายแต่ทว่าหลายๆ ตัวก็ราคาแพงแสนแพงแถมอุปกรณ์บางอย่างก็เกิดความจำเป็นของผู้ใช้

มาวันนี้ทางด้าน Asus ประเทศไทยหลังจากที่เดินหน้าบุกตลาด Gaming Notebook ในไทยแบบเต็มตัว ก็มองเห็นความต้องการของผู้ใช้งานอีกกลุ่มที่ยังคงชื่นชอบในการใช้งาน Desktop PC แบบนั่งเล่นอยู่กับบ้าน จึงได้มีการเปิดตัวเกมมิ่งพีซีที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “ROG STRIX GL10DH” ที่บอกได้เลยว่าราคาไม่สูงเกินเอื้อม และเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานมือใหม่ที่ยังไม่มีความรู้เรื่อง PC มากนัก หรือจะเป็นเกมเมอร์คอเกมที่ต้องการเครื่องแรงๆ ไว้เล่นเกมในยุคนี้ หรือจะเป็นเครื่อง PC ที่ใช้งานทั่วไปในออฟฟิศก็ได้เช่นกัน เพราะเจ้าเครื่อง “ROG STRIX GL10DH” มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน แถมราคาก็ไม่แพงเกินไป ผู้ใช้งานสามารถที่จะอัพเกรดเครื่องเพิ่มเติมในภายในหลัง ในกรณีที่ต้องการความแรงเพิ่มขึ้นหรือมีงบเพิ่มและอยากอัพเกรดเครื่องให้แรงแบบสุดๆ ซึ่งภายในเครื่องจะมาพร้อมกับ CPU ของ AMD Ryzen และการ์ดจอ NVIDIA GeForce ที่อัดแน่นมาด้วยความแรงแถมราคาเบาๆ และที่สำคัญภายในกล่องยังมีเม้าส์ พร้อมกับคีย์บอร์ด แค่ต่อกับจอมอนิเตอร์ก็ใช้งานได้เลยทันที

สำหรับสเปคของ Desktop PC จาก Asus รุ่น ROG STRIX GL10DH นี้แบ่งออกเป็นสามรุ่นได้แก่ GL10DH-TH008T ในรุ่นเริ่มต้น, GL10DH-TH009T เป็นรุ่นกลางและสูงสุดที่ GL10DH-TH007T แน่นอนว่าแต่ละรุ่นย่อมมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามสเปคภายใน แต่บอกได้เลยว่าทั้ง 3 รุ่นราคาไม่ได้แรงจนเกินเอื้อมอย่างที่หลายๆ คนคิดเอาไว้

• ให้ประกัน Perfect warranty 1 ปี รับประกันอุบัติเหตุน้ำหกใส่, ไฟฟ้าลัดวงจรหรือเครื่องหล่น โดย Asus จะรับผิดชอบค่าแรงและค่าอะไหล่ 80% ส่วนเจ้าของเครื่องชำระค่าอะไหล่ 20%

• มีคีย์บอร์ดกับเม้าส์มาในกล่อง ต่อจอใช้งานได้เลย

ซึ่งเจ้า Desktop PC จาก Asus รุ่น ROG STRIX GL10DH นี้ได้มีการเริ่มจำหน่ายกันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง เรียกได้ว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมาส่งท้ายปี 2019 ที่เราจะมารีวิวให้ได้ชมกัน โดยที่ตัวเครื่องที่ทีมงานเราได้รับจากทาง Asus มารีวิวให้ได้ชมกันนั้นเป็นรุ่น GL10DH-TH007T หรือรุ่นที่เป็นตัวท็อปสุดเลยนั่นเอง ซึ่งจากที่เราได้เห็นราคาของเครื่องรุ่นนี้และได้นำไปเทียบกับเครื่องที่สั่งประกอบบอกได้เลยว่า ราคาของเครื่องคอมฯ ที่สั่งประกอบ DIY จะมีราคาจะแพงกว่า GL10DH-TH007T ที่เป็นเซ็ตอยู่พอควรเลย

จากสเปคของ ROG STRIX GL10DH ที่เราได้เกริ่นมาด้านบนนั้น หากเราไปสั่งประกอบเองไม่รวม Windows 10 ตัวลิขสิทธิ์แท้ที่มีให้ แถมยังไม่มีอุปกรณ์พวก wifi / bluetooth ที่จะต้องจ่ายเพิ่มเติม ราคาก็ปาเข้าไปประมาณ 3x,xxx เข้าไปแล้ว

พูดถึงดีไซด์ของ ROG STRIX GL10DH ตัวเคสด้านหน้าจะออกดีไซน์มาในแบบเรียบๆ แต่ดูหรู ลายเส้นโค้งรับกับตัวเคสที่มาพร้อมกับโลโก้ของ ROG ที่โดดเด่นในสไตล์แบบ Gaming PC แถมก็ยังแฝงไปด้วยความโฉบเฉียวด้วยการเล่นสีที่คมเข้ม และมีการซ่อนแสงไว้ภายใต้รอยแยกของเคสด้านหน้าให้ดูทันสมัยเอาไว้

ด้านบนปุ่มเปิด-ปิด ตัวเครื่องนั่นก็จะแอบๆ จากสายตา หลบอยู่ใกล้กับ port USB 2 ช่อง และ ช่อง 3.5 แบบ combo jack

ส่วนด้านหลังเครื่องก็จะดูเรียบๆครับ แต่ช่องต่อจอนี้มาให้ต่อได้สูงสุดถึง 4 จอทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ใช้จอ 240hz บอกเลยว่าตัว RTX2060 นี้เอาอยู่

ซึ่งตัวนี้จะควบคุมด้วยโปรแกรม Armoury Crate ที่จะจะสามารถปรับแต่งค่าเครื่องได้จากตรงนี้ หรือว่าควบคุมแสงไฟได้เลย

นอกจากตัวโปรแกรมที่มีแนะนำให้ติดตั้งเพิ่ม ก็จะมีดีลพิเศษส่วนลดสำหรับชาว ROG อีกด้วยในส่วนของ Game Deals และมีการแนะนำด้วยว่าเกมไหนรองรับ Aura Ready ด้วย คือเรียกได้ว่าซื้อทีเดียว ก็เอาให้จบไปเลย ฮ่าาาา

ยังไม่หมดกับโปรแกรมเสริมในเครื่องครับ มี Gamefirst V ไว้จัดการเรื่องสัญญาณ Internet โดยเฉพาะ ที่เราสามารถปรับตั้งค่าได้ว่า จะให้ตัวไหน มีความสำคัญแค่ไหน ปรับ Speed UL/DL ได้เลย

บทสรุปหลังจากที่ได้ทดสอบ ROG STRIX GL10DH

เป็น Gaming PC Set ที่ราคาน่าคบหา เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการนั่งเลือกชิ้นส่วนแต่ล่ะชิ้นมาประกอบ หรือไม่สะดวกในการแก้ไข บำรุงรักษาเครื่อง PC ตัวเอง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยครับ

ด้วยการประกัน Onsite 3 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว แถมมีประกันอุบัติเหตุให้อีกในปีแรกด้วย

Ram ที่ให้ติดเครื่องมา 8 GB สำหรับคนที่เล่นเกมออนไลน์ทั่วๆ ไป หรือดูหนัง ฟังเพลง เปิด Youtube เล่นโน่นนี่ บอกเลยว่าเหลือๆ แต่ถ้าหากเป็นคนที่ชอบเล่นเกม PC หรือเกมบนสตีมแล้วล่ะก็ อาจจะเพิ่ม RAM 8 GB เข้าไปอีก 1 ตัว ก็ถือว่าจบเรื่องได้สบายๆ