6 notebook 2 in 1 ยี่ห้อไหนดี ทัชสกรีนลื่น พกพาสะดวก ใช้งานได้หลากหลาย

Notebook 2 in 1 ถือว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมเลือกใช้กันมากขึ้น สามารถตอบโจทย์การทำงานได้ดี และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ ด้วยขนาดของโน๊ตบุ๊คที่เล็ก กะทัดรัด พกพาไปไหนมาไหนก็สะดวก และยังสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายราคาเริ่มตั้งแต่หมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลักแสนก็ยังมี วันนี้เราเลยรวบรวมโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 รุ่นที่น่าใช้มาแนะนำ พร้อมวิธีเลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มค่า มาดูกัน

ทำความรู้จักกับ Notebook 2 in 1

ใครที่ยังไม่รู้จักว่า Notebook 2 in 1 คืออะไร แล้วมันมีความต่างกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปยังไง อธิบายสั้น ๆ ว่ามันก็คือโน๊ตบุ๊คที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ โน้ตบุ๊คทั่วไป กับ แท็บเล็ต ทัชสกรีน ขีดเขียนวาดรูป จดบันทึกงานได้ และบางรุ่นก็ยังสามารถพลิกกลับหน้าจอ หรือ ถอดคีย์บอร์ดออกจากจอได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันก็จะมีโน๊ตบุ๊คทูอินวันให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ โน๊ตบุ๊คที่สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ปรับหมุนองศาได้ตามลักษณะการใช้ทำงาน หรือพลิกหน้าจอไปด้านหลังสำหรับใช้งานเป็นแท็บเล็ต ทัชสกรีนได้ ขีดเขียนวาดรูปได้ด้วยปากกาได้ และโน๊ตบุ๊คที่สามารถถอดแยกส่วนระหว่างหน้าจอกับแป้นพิมพ์ Keychron หรือคีย์บอร์ด เมื่อถอดแยกกันการใช้งานก็จะเป็นเหมือนแท็บเล็ต พอใส่ประกอบเข้ากันการใช้งานก็จะกลับมาเป็นโน๊ตบุ๊ค จุดเด่นของเจ้า Laptop 2 in 1 จะมีขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา เพื่อความสะดวกในการใช้พกพา มี Notebook 2 in 1 คือสะดวกมากกก

แนะนำ 6 Notebook 2 in 1 รุ่นที่น่าสนใจ ฟีเจอร์จัดเต็ม ครบทุกการใช้งาน

ด้วยฟังก์ชันการใช้งานโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 ที่สามารถเป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ต จะใช้งานแบบไหนก็สะดวก แถมยังมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ง่ายในพกพา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับคนยุคใหม่ จึงทำให้โน๊ตบุ๊คทูอินวันกลายเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ และหมาะกับการนำมาใช้ทำงานทั่วไป เช่น พิมพ์เอกสาร รับ-ส่งเมล์ ท่องโลกอินเทอร์เน็ต ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และถ้าใครที่คิดว่าอยากจะซื้อโน๊ตบุ๊ค แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อแบรนด์ไหน รุ่นไหน วันนี้เรามี Notebook 2 in 1 มาแนะนำด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่นที่น่าสนใจ จะมีรุ่นไหนที่โดนใจกันบ้างนั้น ตามมาดูกัน

1. HP ENVY x360 13-AR0006AU

โน๊ตบุ๊คทูอินวันตัวแรกที่ทุ่มสุดตัว ออกแรงเชียร์ให้เลือกซื้อมาใช้นั่นก็คือ HP ENVYx360 13 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2021 เป็นโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 ที่ดูโฉบเฉี่ยว บางเฉียบ น้ำหนักเบาสบาย หนักเพียงแค่ 1.32 กิโลกรัม สะดวกสบายในการพกพา ซึ่งการออกแบบดีไซน์และวัดสุที่ใช้ในการประกอบโน๊ตบุ๊คนั้น ใช้เป็นอะลูมิเนียมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ทั้งเครื่อง จึงทำให้ค่อนข้างที่จะแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานเป็นสุด นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่หรูหราระดับพรีเมี่ยมเลยล่ะ ส่วนฟังก์ชันการใช้งาน HP ก็จัดมาให้เต็มพิกัด ใช้งานได้หลากหลาย เช่น พิมพ์งานเอกสารทั่วไป และยังพอที่จะทำงานมัลติมีเดียพอได้บ้าง อย่างตัดต่อคลิปวิดีโอสั้น ๆ ใช้กราฟิกตกแต่งก็ทำได้ไม่แพ้คอมพิวเตอร์ PC เลย ส่วนจอก็ทัชสกรีนได้ลื่นไหลดี ขีดเขียนได้ด้วยปากกา Active Pen นอกจากนี้ตัวเครื่องก็พับกางได้ 360 องศา ตอบโจทย์ในการทำงานได้ดีทีเดียว อีกทั้งยังมีพอร์ตรองรับการเสียบ USB ช่องเสียบหูฟัง เสียบไมค์ มีกล้องหน้าที่คมชัด มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่อึดสุด ๆ สเปคแค่นี้อาจจะคิดว่าราคาต้องสูงแน่ ๆ แต่บอกเลยว่ารุ่นนี้ราคายังไม่ถึง 30,000 เลยจ้า

สเปคภาพรวม HP ENVY x360 13-AR0006AU

CPU : AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U

AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U GPU : AMD Radeon Graphics Vega 6 / Vega 7

AMD Radeon Graphics Vega 6 / Vega 7 Ram : 8GB ความเร็วบัส 3200

8GB ความเร็วบัส 3200 Storage : SSD m.2 PCIe 512GB

SSD m.2 PCIe 512GB Display : 13.3 นิ้ว Full HD IPS 60Hz ทัสกรีนได้

13.3 นิ้ว Full HD IPS 60Hz ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 6 802.11 ax / Bluetooth 5.2

Wi-Fi 6 802.11 ax / Bluetooth 5.2 Warranty : 3 ปี Onsite

2. DELL Inspiron 5491 2-in-1-W566055031THW10

ถ้าจะพูดถึงแบรนด์โน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์สวยหรูหรา ก็ต้องยกให้กับแบรนด์ดังอย่าง DELL ที่ออกผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (PC) , คอมพิวเตอร์ออลอินวัน , โน๊ตบุ๊ครุ่นต่าง ๆ ก็มักจะได้รับความนิยม และเลือกซื้อมาใช้กันมาก แต่ถ้าใครที่อยากได้โน๊ตบุ๊คที่เล็กกะทัดรัด พกพาใส่กระเป๋าได้ สะดวกในการใช้งาน คงต้องยกให้กับDELL Inspiron 5491 โน๊ตบุ๊ค 2 in 1 2021 ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมใช้กันมาก และยังมีดีไซน์ที่หรูหราตามสไตล์ของ Dell ตัวเครื่องและหน้าจอบางเฉียบ มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาสบายมือมาก ๆ จอมีขนาด14 นิ้ว ทัชสกรีน มีปากกาในตัวให้ไว้ขีดเขียน ภายในตัวเครื่องก็จัดสเปคมาให้แรงพอตัว ด้วยการทำงานของซีพียู Core i7-10510U Gen 10 ใส่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX230 เพิ่มความแรงด้วย RAM ขนาด 8GB และ SSD .2 NVMe ความจุ 512GB สามารถเปิดใช้งานได้ทันที เพราะรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Windows 10 และมีซอฟต์แวร์อื่น ๆ มาให้ด้วย ด้วยสเปคทั้งหมดของรุ่นนี้ ตอบโจทย์การใช้ได้หลากหลายรูปแบบจริง ๆ ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป งานเอกสาร พิมพ์งานได้อย่างลื่นไหล หรือจะดูหนัง เล่นเกมออนไลน์รุ่นนี้ก็ยังสู้ไหว ด้วยราคาเบา ๆ 32,900 บาท

สเปคภาพรวม DELL Inspiron 5491

CPU : Intel Core i7-10510U (1.80 GHz, 8 MB L3 Cache up to 4.80 Ghz)

Intel Core i7-10510U (1.80 GHz, 8 MB L3 Cache up to 4.80 Ghz) GPU : NVIDIA GeForce MX230 (2GB GDDR5)

NVIDIA GeForce MX230 (2GB GDDR5) Ram : 8GB DDR4

8GB DDR4 Storage : 512 GB SSD PCIe M.2

512 GB SSD PCIe M.2 Display : 14 นิ้ว Full HD IPS 60Hz ทัสกรีนได้

14 นิ้ว Full HD IPS 60Hz ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 802.11 ac / Bluetooth 5.2

Wi-Fi 802.11 ac / Bluetooth 5.2 Warranty : 2 ปี Onsite

3. Lenovo IdeaPad Duet 3 10IGL5 LTE-82HK001CTA

สำหรับ Lenovo IdeaPad Duet 3 10IGL5 จัดว่าเป็น laptop 2 in 1 อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจจากแบรนด์ Lenovo ราคาสุดคุ้ม ถูกแสนถูกเพียงแค่หมื่นกว่าบาท สเปคในเครื่องพร้อมด้วยฟังก์ชันที่จัดมาให้ถือว่าเยี่ยมสุด ๆ ตอบโจทย์ให้กับคนทำงานยุค New Normal ที่ต้องการหาโน๊ตบุ๊คสำหรับทำงาน มีหน้าจอกว้าง 10.3 นิ้ว ก็ไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินไป จอสามารถทัชสกรีนได้ ดีไซน์ที่เรียบหรู ดูโดดเด่น มีความบางเฉียบ และน้ำหนักเบาเพียงแค่ 0.87 กิโลกรัม สามารถพกพาใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คเล็ก ๆ ถือไปไหนมาไหนสะดวก ซึ่งถ้าใครที่ไม่ชอบแบกหรือถืออะไรหนัก Notebook 2 in 1 แบรนด์ Lenovo ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว ส่วนสเปคตัวเครื่องจะใช้ชิปประมวลผล Intel Celeron N4020 มีแรม 4 GB และใส่ฮาร์ดดิสก์ให้มาอยู่ที่ 128 GB ก็เยอะพอในการใช้เก็บไฟล์งาน ข้อมูลต่าง ๆ หรือโปรแกรมที่ตัวเครื่องต้องใช้ และจุดเด่นคือจอภาพกับคีย์บอร์ดสามารถแยกเป็นอิสระต่อกันได้ พอเสียบติดกันก็กลายเป็นโน๊ตบุ๊ค พอถอดจอออกก็กลายเป็นแท็บแล็ต ซึ่งถ้าใครที่ต้องการแค่โน๊ตบุ๊คที่ใช้ทำงานทั่วไปได้ลื่นไหล ราคาไม่แพงอยู่ที่ประมาณ 18,900 บาท แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นนี้ รับรองถูกใจและตรงใจต่อการใช้งานแน่นอน

สเปคภาพรวม Lenovo IdeaPad Duet 3

CPU : Intel Celeron N4020 (1.10 GHz, 4 MB L2 Cache, up to 2.80 GHz)

Intel Celeron N4020 (1.10 GHz, 4 MB L2 Cache, up to 2.80 GHz) GPU : Intel UHD Graphics 600

Intel UHD Graphics 600 Ram : 4GB DDR4

4GB DDR4 Storage : HDD 128GB e.MMC

HDD 128GB e.MMC Display : 10.3 นิ้ว (1920×1200) WUXGA ทัสกรีนได้

10.3 นิ้ว (1920×1200) WUXGA ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 802.11 ac / Bluetooth 5.0

Wi-Fi 802.11 ac / Bluetooth 5.0 Warranty : 1 ปี

4. Acer Spin 5 SP513-54N-50LA

Acer Spin 5 SP513-54N-50LA เป็น Notebook 2 in 1 2021 รุ่นที่น่าสอยมาใช้อย่างแรง ราคาสบายกระเป๋า ดีไซน์เรียบง่าย วัสดุตัวเครื่องเป็นแมกนีเซียมอะลูมิเนียม ซึ่งค่อนข้างที่มีความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี แถมเครื่องยังเบาและเบาสุด ๆ หนักแค่ 1.2 กิโลกรัม ทำให้สะดวกในการพกพา จะถือไปไหนมาไหน หรือนั่งทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมที่ไหนก็ได้สะดวก ติดตั้งมาพร้อมกับซีพียู Intel Core i5-1035G4 ให้แรมขนาด 8GB มี SSD ความจุ 512GB รองรับการทำงานทั่วไปได้ลื่นไหล งานมัลติมีเดียอย่างตัดต่อคลิปสั้น ๆ หรือเล่นเกมออนไลน์ทั่วไปก็พอเล่นได้ มีหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว มีความละเอียดระดับ 2K QHD ภาพคมชัดเหมือนจริง สีสันสวยสดใส ทัชสกีนได้ลื่น มีปากกาแถมมาให้พร้อมช่องเสียบเก็บปากกาในตัว สามารถใช้ขีดเขียนหรือวาดรูปก็ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับเขียนบนกระดาษ ส่วนบานพับตรงระหว่างจอกับคีย์บอร์ด พับหรือกางออกได้ 360 องศา รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Thunderbolt 3 ที่ส่งข้อมูลต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ยังรองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว แบตที่ให้มาก็อึดทนมาก ๆ ให้ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง ติดตั้ง Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานได้ทันที โดยรวม ๆ แล้ว laptop 2 in 1 จาก Acer รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ สำหรับใครที่มองหาโน๊ตบุ๊คมาใช้ทำงาน ราคาประมาณ 27,600 บาท

สเปคภาพรวม Acer Spin 5 SP513-54N-50LA

CPU : Intel Core i5-1035G4 (1.10 GHz, 6 MB L3 Cache up to 3.70 Ghz)

Intel Core i5-1035G4 (1.10 GHz, 6 MB L3 Cache up to 3.70 Ghz) GPU : Intel Iris Plus Graphics G4

Intel Iris Plus Graphics G4 Ram : 8GB DDR4 On Board

8GB DDR4 On Board Storage : 512GB SSD PCIe M.2

512GB SSD PCIe M.2 Display : 13.5 นิ้ว (2256 x 1504) (3:2) QHD ทัสกรีนได้

13.5 นิ้ว (2256 x 1504) (3:2) QHD ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 6 802.11 ax / Bluetooth 5.0

Wi-Fi 6 802.11 ax / Bluetooth 5.0 Warranty : 3 ปี มีบริการซ่อมถึงบ้าน

5. Asus VivoBook Flip 14 TP412FA-EC491T

ใครที่มีงบน้อยไม่ถึง 20,000 บาท แนะนำ Asus รุ่น VivoBook Flip 14 TP412FA ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน สามารถใช้ทำงานได้หลากหลาย และยังจัดว่าเป็น Notebook 2 in 1 2021 ยอดนิยม ด้วยดีไซน์ทันสมัย เพรียวบาง น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม มีความแข็งแรงและทนทานในการใช้งาน ขนาดเล็กกะทักรัด พกพาได้สะดวก สีน้ำเงิน Galaxy Blue มาพร้อมกับจอที่กว้าง 14 นิ้ว ซึ่งจะเป็นจอภาพ NanoEdge ที่บางเฉียบสุด ๆ ภาพสีสวยมีความคมชัดระดับ Full HD และยังออกแบบมาให้ตัวบานพับจอสามารถปรับหมุนและพับได้ 360 องศา รองรับการทัชสกรีน มีปากกาในตัวมาให้ เพื่อขีดเขียนใช้งานได้อย่างสะดวก ส่วนสเปคที่ Asus จัดมาให้ในรุ่นนี้ จะใช้เป็นซีพียู Intel Core i3-10110U ความเร็วการประมวลผลทำงานสูงสุด 4.10 Ghz ทำงานควบคู่ไปกับการ์ดจอ Intel UHD Graphics 620 ใส่แรมมาให้อยู่ที่ 4GB และ SSD 256GB ด้วยสเปคที่ให้มาบอกเลยว่าทำงานทั่วไปได้สบาย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ตัวเครื่องจะมีระบบการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ และยังเชื่อมต่อได้ครบถ้วนด้วยพอร์ตต่าง ๆ สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว ราคา Notebook 2 in 1 รุ่นนี้ก็จะอยู่ประมาณ 17,990 บาท สเปคเลิศ ราคาน่าคบ จัดสักหน่อยไหมล่ะ

สเปคภาพรวม Asus VivoBook Flip 14 TP412FA

CPU : Intel Core i3-10110U (2.10 GHz, 6 MB L3 Cache up to 4.10 Ghz)

Intel Core i3-10110U (2.10 GHz, 6 MB L3 Cache up to 4.10 Ghz) GPU : Intel UHD Graphics 620

Intel UHD Graphics 620 Ram : 4GB DDR4

4GB DDR4 Storage : 256GB SSD PCIe M.2

256GB SSD PCIe M.2 Display : 14 นิ้ว Full HD ทัสกรีนได้

14 นิ้ว Full HD ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 802.11ac / Bluetooth 4.2

Wi-Fi 802.11ac / Bluetooth 4.2 Warranty : 2 ปี

6. Microsoft Surface Book 3 13.5” V6F-00004

ถ้าใครที่ชอบความพรีเมี่ยม แข็งแรง อึด ถึก ทน มีใจรักใน Windows ก็ต้อง Microsoft Surface Book 3 นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 2021 ตัวท็อปของ Microsoft อีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ มาพร้อมกับความสวยงาม ดีไซน์ทันสมัย ตัวบอดี้เป็นอลูมิเนียม แข็งแรงทนทาน ส่วนสเปก Intel Core i5-1035G7 ดันความเร็วการประมวลผลได้สูงสุด 3.70 Ghz จับคู่การทำงานมากับชิปกราฟิก Intel Iris Plus Graphics G7 ให้ Ram 8 GB DDR4 On Board และ SSD 256 GB สเปกแรงใช้ได้เลย ทำงานทั่วไปง่าย ๆ ได้ลื่นไหล งานกราฟิกที่ต้องใช้ความละเอียดสูง ๆ อย่างโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ แต่งภาพ เล่นเกม โน๊ตบุ๊คตัวนี้ก็เอาอยู่ และตัวเครื่องยังทำงานได้รวดเร็วในการบูทเครื่อง เปิด-ปิด โปรแกรม ด้วย SSD มีจอที่กว้าง 13.5 นิ้ว สามารถทัชสกรีนได้ และสามารถถอดจอออกจากคีย์บอร์ดได้ เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้อีกด้วย มีพอร์ตเชื่อมต่อให้เป็น USB-A 3.1 Gen 2 x2, USB-C 3.1 Gen 2 มีช่องเสียบหูฟัง ยังมีกล้องหน้าและกล้องให้ถ่ายรูปหรือวิดีโอได้อีกด้วย โดยรวม ๆ แล้วโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ยุคนี้ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับราคา 54,900 บาท

สเปคภาพรวม Microsoft Surface Book 3

CPU : Intel Core i5-1035G7 (1.20 GHz, 6 MB L3 Cache up to 3.70 Ghz)

Intel Core i5-1035G7 (1.20 GHz, 6 MB L3 Cache up to 3.70 Ghz) GPU : Intel Iris Plus Graphics G7

Intel Iris Plus Graphics G7 Ram : 8GB DDR4 On Board

8GB DDR4 On Board Storage : 256GB SSD PCIe M.2

256GB SSD PCIe M.2 Display : 14 นิ้ว Full HD ทัสกรีนได้

14 นิ้ว Full HD ทัสกรีนได้ Network : Wi-Fi 802.11ax / Bluetooth 5.0

Wi-Fi 802.11ax / Bluetooth 5.0 Warranty : 1 ปี

3 วิธีเลือกซื้อ notebook 2 in 1 อย่างไรให้คุ้มค่า

การเลือกซื้อโน๊ตบุ๊ค 2 in 1มาใช้สักเครื่อง คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร แต่ความยากง่ายนั้นมันอยู่ตรงวิธีเลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มค่า วันนี้เรามี 3 วิธีเลือกซื้อมาแนะนำ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน

1.หน้าจอ (Display)

แน่นอนว่าก็มันคือโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งโน๊ตบุ๊คทั่วไปกับแท็บเล็ต ดังนั้นหัวใจสำคัญในการเลือกซื้อจึงอยู่ที่ “หน้าจอ” ควรเลือกรุ่นที่สามารถทัชสกรีนได้ ควรจะต้องลองเช็คความลื่นไหลในการทัชสกรีน ขนาดของจอว่ากว้างแบบนี้โอเคไหม ง่ายในการใช้งานหรือเปล่า ภาพสีสันคมชัดความละเอียดได้ไหม เพราะหน้าจอเป็นสิ่งที่เราจะต้องใช้งานมากที่สุด ต้องจ้องเป็นเวลานาน ๆ

2.สเปค (Spec)

สเปค คือสิ่งที่ควรจะต้องดูเช่นกัน ไม่ว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ประเภทไหนก็ตาม เพราะสเปคเครื่องนั้นหมายถึงการทำงานทั้งหมด รวมไปถึงราคาด้วย ยิ่งสเปคแรง ๆ ราคาก็มักจะสูงตามไปด้วย แน่นอนว่าการจะซื้อ Laptop 2 in 1 จุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือใช้ทำงานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมพอได้บ้าง ขนาดเล็ก บางเบา พกพาไปไหนได้สะดวก คราวนี้มาดูวิธีการเลือกสเปคเครื่องให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน

เน้นการใช้งานทำงานทั่วไป เล่นอินเทอร์เน็ต และดูหนังฟังเพลง แนะนำให้เลือกใช้ซีพียูธรรมดา ๆ อย่าง Atom หรือ Pentium ส่วน Ram 2 – 4 GB เสริมด้วย SSD 64 – 128GB สเปคนี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

เน้นใช้งานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ และเล่นเกมส์ ก็ให้เลือกซีพียูที่สูงขึ้นมาหน่อย อาจจะเป็น CPU Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 ส่วน Ram 4 GB และ SSD 128 – 256 GB บอกเลยว่าสเปคนี้เอาอยู่ แต่ถ้าใครที่อยากจะเพิ่มความแรง ก็สามารถอัพเกรด Ram ได้

เน้นใช้งานมัลติมีเดีย งานกราฟิกหนัก ๆ หรือเล่นเกมส์ที่ต้องใช้กราฟิกเยอะ ๆ ควรเลือก CPU อาจจะเป็น CPU Core i5, Core i7 หรือ AMD Ryzen 5, Ryzen 7 ส่วน Ram 8 GB และ SSD 256 – 512 GB สเปคนี้ก็จะตอบโจทย์การใช้งานได้ตามที่ต้องการ

3.เงิน (budget)

เงิน นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญจริง ๆ เป็นตัวกำหนดได้เลยว่าเราจะได้โน๊ตบุ๊คสเปคแรงแค่ไหน เพราะถ้าความต้องการใช้งานจัดมาเต็ม แต่ตังค์ในกระเป๋ามีพอแค่ซื้อได้สเปคธรรมดา ดังนั้นสิ่งสำคัญในการซื้อ notebook 2 in 1 ก็ควรจะตั้งงบประมาณไว้ก่อน ว่าเรามีงบเท่าไรในการซื้อ แต่อย่างน้อย ๆ ก็เตรียมไว้สัก 20,000 บาท จากนั้นก็ศึกษาหาข้อมูลดูรุ่นที่ไม่เกินงบประมาณ แล้วก็ค่อยมาดูสเปคว่าพอใช้ได้ไหม ถ้าทุกอย่างโอเคก็จัดไปมาเลย

เอาล่ะเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าเพื่อน ๆ ก็น่าจะพอที่รู้จักโน๊ตบุ๊คทูอินวันกันมากขึ้น รู้วิธีการเลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มค่า และถ้ามีรุ่นไหนที่คิดว่าโดนใจ ก็ลองไปที่ Shop แล้วลองใช้งานเล่น ๆ ดูฟังก์ชันอื่น ๆ ว่าตอบโจทย์ได้ตรงกับการใช้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือเวลาซื้ออย่าลืมรีบร้อน ไม่เช่นนั้นอาจจะ “ตาดีได้ ตาลายเสีย” เอาน่า

ที่มาข้อมูล : bestreview.asia /